หมอเผยเอกซเรย์พบไข่พยาธิตัวตืดเต็มตัวชาวบราซิลรายหนึ่งได้สร้างความตกใจให้กับผู้คนนับล้านบนโซเชียล

หมอเผยเอกซเรย์พบไข่พยาธิตัวตืดเต็มตัวชาวบราซิลรายหนึ่งได้สร้างความตกใจให้กับผู้คนนับล้านบนโซเชียล

เมื่อเร็ว ๆ นี้ แพทย์ชาวบราซิลรายหนึ่งได้สร้างความตกใจตกตะลึงให้กับผู้คนนับล้านบนโซเชียลมีเดียด้วยการโพสต์ภาพเอ็กซ์เรย์ของชายคนหนึ่งที่ป่วยเป็น
โรคซิสติเซอร์โคซิส ซึ่งร่างกายเต็มไปด้วยไข่พยาธิตัวตืดมากมายมหาศาลเกาะอยู่ในลำไส้และเนื้อเยื่อ

เมื่อเดือนที่แล้ว นายแพทย์ Vitor Borin de Souza ประจำโรงพยาบาล Hospital das Clínicas ในเมือง Botucatu เมืองเซาเปาโล

ได้โพสต์ภาพเอ็กซ์เรย์ของผู้ป่วยบน Twitter เพื่อแสดงให้ผู้ติดตามของเขาเห็นว่าการติดเชื้อพยาธิตัวตืดนั้นเลวร้ายเพียงใด แพทย์อธิบายว่าจุดสีขาวที่มองเห็นได้ทั่วลำตัวและแขนของเขาคือไข่ของพยาธิตัวตืดที่กลายเป็นปูนหลังจากติดเชื้อปรสิตในลำไส้ทั่วไป 

โชคดีที่ผู้ป่วยมาตรวจร่างกายหลังจากมีอาการไอต่อเนื่อง จึงไม่เป็นอันตรายใดๆ จากไข่ เนื่องจากไข่ทั้งหมดกลายเป็นปูน (ไม่น่ารอด) แม้ว่าไข่ของพยาธิตัวตืด (cysticerci) จะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของชายคนนี้ แต่พวกมันก็สร้างกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ของบราซิลไม่น้อย

Dr. de Souza อธิบายใน Twitter ว่า "รอยโรคเหล่านี้ถูกทำให้กลายเป็นปูน ดังนั้นพวกมันจึงไม่ใช่ cysticerci ที่ทำงานได้" “ถ้ามันไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ชีวิตก็ดำเนินต่อไป”

โรคซิสติเซอร์โคสิสเป็นโรคที่เกิดจากการกินไข่พยาธิตัวตืด ซึ่งถือว่าหายากในบราซิล โดยมีผู้ป่วยน้อยกว่า 150,000 รายต่อปี 

มักเกิดกับพยาธิตัวตืดระดับกลาง ซึ่งมักจะหมายถึงสุกรและวัว แต่บางครั้งมนุษย์ก็สามารถกลายเป็นโฮสต์ระดับกลางได้เช่นกัน ซึ่งหมายความว่าอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดอาจถูกรบกวนด้วยไข่พยาธิ

เป็นเรื่องที่น่าสยดสยองที่จะจินตนาการ แต่ยากยิ่งกว่าที่จะมอง
แต่ cysticercosis เป็นปัญหาที่แท้จริงในประเทศที่มักละเลยกฎพื้นฐานด้านสุขอนามัย แม้ว่าอวัยวะใด ๆ ก็ตามสามารถติดเชื้อ cysticerci ได้ แต่สมองก็เป็นปัญหามากที่สุด โรคถุงลมโป่งพองเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต 50,000 รายต่อปี และเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคลมบ้าหมูที่ได้รับทั่วโลก

การศึกษาแสดงให้เห็นว่า cysticercosis ขนาดใหญ่เช่นกรณีที่แสดงใน X-ray ของ Dr. Souza เกิดขึ้นในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่า